มะขาม ชื่อสามัญ Tamarind
มะขาม ชื่อวิทยาศาสตร์ Tamarindus indica L. จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยราชพฤกษ์ (CAESALPINIOIDEAE หรือ CAESALPINIACEAE)
มะขามจัดเป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นที่มีถิ่นกำเนิดในทวีฟแอฟริกาและมีการนำเข้ามาปลูกในแถบเอเชีย นอกจากนี้มะขามยังเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ และตามตำราพรหมชาติยังถือว่ามะขามเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง ที่ช่วยป้องกันสิ่งเลวร้าย ผีร้ายต่าง ๆ ไม่ให้มากล้ำกราย อีกทั้งยังเป็นต้นไม้ที่มีชื่อมงคล ถือกันเป็นเคล็ดทำให้มีคนเกรงขาม
สำหรับประโยชน์ของมะขามและสรรพคุณมะขามนั้นมีมากมาย จัดว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและยังมีสรรพคุณใช้เป็นยารักษาโรคอีกด้วย โดยส่วนที่นำมาใช้เป็นยาจะเป็นเนื้อฝักแก่ (มะขามเปียก) เปลือกของลำต้น (ทั้งสดและแห้ง) และเนื้อในเมล็ด สามารถช่วยรักษาได้หลายโรค เช่น เป็นยาขับเสมหะ แก้อาการท้องเดิน บรรเทาอาการท้องผูก ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ เป็นต้น
มะขามยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างวิตามินซี วิตามินบี 2 วิตามินเอ ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เป็นต้น มะขามที่แก่จัดนั้นเราจะเรียกว่า “มะขามเปียก” โดยมะขามหวาน 100 กรัม จะมีแคลอรีเท่ากับ 314 แคลอรี
7 สรรพคุณต้านโรคของมะขาม
1.มะขามช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค
2.ชะลอวัยและการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
3.บำรุงกระดูกและฟัน
4.ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด
5.บำรุงและรักษาสายตา
6.ลดความอ้วน เป็นยาระบาย
7.ขับเสมหะ ละลายเสมหะ
นอกจากนั้นยังพบคุณประโยชน์อีกมากมาย
มะขามช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้แก่ร่างกายด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสด้วยวิตามินซีจากมะขาม
ช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
แคลเซียมจากมะขามจะช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
มะขามมีธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือด
ใช้ในการทำทรีตเม้นต์ด้วยการนำมาขัดตามซอกขาหนีบ รักแร้ ข้อพับ ซึ่งจะช่วยลดรอยคล้ำลงได้
นำมะขามเปียกไปแช่น้ำ ลอกเอาใยออก นำมะขามมาถูตัวเบา ๆ ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื่นตลอดทั้งวัน และช่วยกำจัดแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
มะขามเปียกและดินสอพองผสมจนเข้ากัน นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยให้ผิวหน้าดูกระชับสดใสและสะอาดยิ่งขึ้น
มะขามเปียกผสมกับน้ำอุ่นและนมสด ใช้พอกผิว ช่วยให้ผิวหนังที่มีรอยดำคล้ำกลับมาขาวสดใส นุ่มนวลยิ่งขึ้น
นำมาใช้เป็นส่วนผสมหรือใช้ทำเป็นกรดผลไม้ (AHA)
สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟหรือสูบบุหรี่เป็นประจำ ให้นำเนื้อมะขามมาขัดถูฟันเป็นประจำทุกครั้งที่แปรงฟัน จะช่วยขจัดคราบสกปรกบริเวณฟันลงได้
สามารถนำมาใช้ทำยานวดผม ซึ่งช่วยรักษารากผม ฆ่าเชื้อราบนหนังศีรษะ และช่วยฆ่าเหาได้อีกด้วย ด้วยการนำมะขามเปียกมาผสมกับน้ำแล้วใช้มือคั้นเนื้อมะขามเพื่อให้ละลายออกมาผสมกับน้ำ น้ำที่ได้นั้นจะมีลักษณะเหลว (ไม่ควรเหลวมาก) แล้วนำมานวดศีรษะหลังจากที่สระผมเสร็จแล้ว ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออก
ใช้ทำเป็นน้ำยาอาบน้ำ ด้วยการนำใบมะขามมาจำนวนหนึ่ง ใส่ใบมะขามลงในน้ำเดือดแล้วปิดฝา แล้วเคี่ยวประมาณ 30 นาที จากนั้นนำลงจากเตาปล่อยให้เย็นแล้วนำมาอาบ จะช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น รักษาผดผื่นคันตามร่างกายและผิวหนังได้
การแปรรูปมะขาม สามารถนำมาแปรรูปได้หลายชนิด เช่น มะขามแก้ว มะขามกวน มะขามอบไร้เมล็ด มะขามบ๊วย มะขามแช่อิ่ม มะขามคลุก มะขามจี๊ดจ๊าด เป็นต้น
ช่วยป้องกันการเกิดและช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
มะขามมีวิตามินเอที่มีส่วนช่วยในการบำรุงและรักษาสายตา
ช่วยลดความร้อนในร่างกายได้เป็นอย่างดี
แก้อาการท้องผูกด้วยการใช้เนื้อมะขามเปียกประมาณ 15 ฝัก นำมาจิ้มกับเกลือแล้วรับประทาน หรือใส่เกลือเติมน้ำแล้วคั้นเป็นน้ำดื่ม
แก้อาการท้องเดินด้วยการใช้เปลือกต้นประมาณ 2 กำมือ นำมาต้มกับน้ำปูนใสหรือน้ำแล้วนำมารับประทาน
ช่วยถ่ายพยาธิตัวกลมในลำไส้ พยาธิไส้เดือน ด้วยการใช้เมล็ดมะขามมาคั่ว กะเทาะเปลือกออก นำเนื้อในเมล็ดมาแช่น้ำเกลือจนนิ่ม แล้วรับประทานครั้งละ 20 เม็ด
ช่วยขับเสมหะ ละลายเสมหะ ด้วยการนำมะขามเปียกมาจิ้มเกลือแล้วรับประทาน
มะขามอุดมไปด้วยกรดอินทรีย์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยชำระล้างความสกปรกในรูขุมขนและขจัดคราบมันบนผิวหนังได้เป็นอย่างดี
รากมะขามมีส่วนช่วยแก้อาการท้องร่วง
รากมะขามช่วยในการสมานแผล
รากมะขามช่วยในการรักษาโรคเริม
รากมะขามช่วยในการรักษาโรคงูสวัด
เปลือกลำต้นมะขามช่วยแก้ไขตัวร้อน
แก่นของต้นมะขามช่วยรักษาฝีในมดลูก
แก่นของต้นมะขามช่วยในการขับโลหิต
แก่นมะขามมีส่วนช่วยเป็นยาชักมดลูกให้เข้าอู่
ใบสดมะขามใช้เป็นยาถ่าย ยาระบาย ขับลมในลำไส้
ใบสดมะขามช่วยรักษาหวัด อาการไอ
ใบสดมะขามมีส่วนช่วยในการรักษาโรคบิด
ใบสดมะขามมีคุณสมบัติใช้เป็นยาหยอดตา รักษาเยื่อตาอักเสบ แก้อาการตามัว
ใบสดมะขามมีคุณสมบัติในการช่วยฟอกโลหิต
ใบสดนำมาต้มผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ใช้อาบหลังคลอด
เนื้อหุ้มเมล็ดของมะขามใช้เป็นยาสวนล้างท้อง
ฝักดิบของมะขามใช้ในการฟอกโลหิต
ฝักดิบของมะขามใช้ในการลดความอ้วน เป็นยาระบาย ลดอุณหภูมิในร่างกาย
เปลือกมะขามช่วยรักษาแผลสด แผลไฟลวก แผลเบาหวาน ถอนพิษ
ในมะขามประกอบด้วย
คาร์โบไฮเดรต 62.5 กรัม
น้ำตาล 57.4 กรัม
เส้นใย 5.1 กรัม
ไขมัน 0.6 กรัม
โปรตีน 2.8 กรัม
วิตามินบี 1 0.428 มิลลิกรัม 37%
วิตามินบี 2 0.152 มิลลิกรัม 13%
วิตามินบี 3 1.938 มิลลิกรัม 13%
วิตามินบี 5 0.143 มิลลิกรัม 3%
วิตามินบี 6 0.066 มิลลิกรัม 5%
วิตามินบี 9 14 ไมโครกรัม 4%
โคลีน 8.6 มิลลิกรัม 2%ประโยชน์ของมะขาม
วิตามินซี 3.5 มิลลิกรัม 4%
วิตามินอี 0.1 มิลลิกรัม 1%
วิตามินเค 2.8 ไมโครกรัม 3%
ธาตุแคลเซียม 74 มิลลิกรัม 7%
ธาตุเหล็ก 2.8 มิลลิกรัม 22%
ธาตุแมกนีเซียม 92 มิลลิกรัม 26%
ธาตุฟอสฟอรัส 113 มิลลิกรัม 16%
ธาตุโพแทสเซ
มะขาม ชื่อวิทยาศาสตร์ Tamarindus indica L. จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยราชพฤกษ์ (CAESALPINIOIDEAE หรือ CAESALPINIACEAE)
มะขามจัดเป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นที่มีถิ่นกำเนิดในทวีฟแอฟริกาและมีการนำเข้ามาปลูกในแถบเอเชีย นอกจากนี้มะขามยังเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ และตามตำราพรหมชาติยังถือว่ามะขามเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง ที่ช่วยป้องกันสิ่งเลวร้าย ผีร้ายต่าง ๆ ไม่ให้มากล้ำกราย อีกทั้งยังเป็นต้นไม้ที่มีชื่อมงคล ถือกันเป็นเคล็ดทำให้มีคนเกรงขาม
สำหรับประโยชน์ของมะขามและสรรพคุณมะขามนั้นมีมากมาย จัดว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและยังมีสรรพคุณใช้เป็นยารักษาโรคอีกด้วย โดยส่วนที่นำมาใช้เป็นยาจะเป็นเนื้อฝักแก่ (มะขามเปียก) เปลือกของลำต้น (ทั้งสดและแห้ง) และเนื้อในเมล็ด สามารถช่วยรักษาได้หลายโรค เช่น เป็นยาขับเสมหะ แก้อาการท้องเดิน บรรเทาอาการท้องผูก ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ เป็นต้น
มะขามยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างวิตามินซี วิตามินบี 2 วิตามินเอ ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เป็นต้น มะขามที่แก่จัดนั้นเราจะเรียกว่า “มะขามเปียก” โดยมะขามหวาน 100 กรัม จะมีแคลอรีเท่ากับ 314 แคลอรี
7 สรรพคุณต้านโรคของมะขาม
1.มะขามช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค
2.ชะลอวัยและการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
3.บำรุงกระดูกและฟัน
4.ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด
5.บำรุงและรักษาสายตา
6.ลดความอ้วน เป็นยาระบาย
7.ขับเสมหะ ละลายเสมหะ
นอกจากนั้นยังพบคุณประโยชน์อีกมากมาย
มะขามช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้แก่ร่างกายด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสด้วยวิตามินซีจากมะขาม
ช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอยแห่งวัย
แคลเซียมจากมะขามจะช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
มะขามมีธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือด
ใช้ในการทำทรีตเม้นต์ด้วยการนำมาขัดตามซอกขาหนีบ รักแร้ ข้อพับ ซึ่งจะช่วยลดรอยคล้ำลงได้
นำมะขามเปียกไปแช่น้ำ ลอกเอาใยออก นำมะขามมาถูตัวเบา ๆ ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื่นตลอดทั้งวัน และช่วยกำจัดแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
มะขามเปียกและดินสอพองผสมจนเข้ากัน นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยให้ผิวหน้าดูกระชับสดใสและสะอาดยิ่งขึ้น
มะขามเปียกผสมกับน้ำอุ่นและนมสด ใช้พอกผิว ช่วยให้ผิวหนังที่มีรอยดำคล้ำกลับมาขาวสดใส นุ่มนวลยิ่งขึ้น
นำมาใช้เป็นส่วนผสมหรือใช้ทำเป็นกรดผลไม้ (AHA)
สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟหรือสูบบุหรี่เป็นประจำ ให้นำเนื้อมะขามมาขัดถูฟันเป็นประจำทุกครั้งที่แปรงฟัน จะช่วยขจัดคราบสกปรกบริเวณฟันลงได้
สามารถนำมาใช้ทำยานวดผม ซึ่งช่วยรักษารากผม ฆ่าเชื้อราบนหนังศีรษะ และช่วยฆ่าเหาได้อีกด้วย ด้วยการนำมะขามเปียกมาผสมกับน้ำแล้วใช้มือคั้นเนื้อมะขามเพื่อให้ละลายออกมาผสมกับน้ำ น้ำที่ได้นั้นจะมีลักษณะเหลว (ไม่ควรเหลวมาก) แล้วนำมานวดศีรษะหลังจากที่สระผมเสร็จแล้ว ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออก
ใช้ทำเป็นน้ำยาอาบน้ำ ด้วยการนำใบมะขามมาจำนวนหนึ่ง ใส่ใบมะขามลงในน้ำเดือดแล้วปิดฝา แล้วเคี่ยวประมาณ 30 นาที จากนั้นนำลงจากเตาปล่อยให้เย็นแล้วนำมาอาบ จะช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น รักษาผดผื่นคันตามร่างกายและผิวหนังได้
การแปรรูปมะขาม สามารถนำมาแปรรูปได้หลายชนิด เช่น มะขามแก้ว มะขามกวน มะขามอบไร้เมล็ด มะขามบ๊วย มะขามแช่อิ่ม มะขามคลุก มะขามจี๊ดจ๊าด เป็นต้น
ช่วยป้องกันการเกิดและช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
มะขามมีวิตามินเอที่มีส่วนช่วยในการบำรุงและรักษาสายตา
ช่วยลดความร้อนในร่างกายได้เป็นอย่างดี
แก้อาการท้องผูกด้วยการใช้เนื้อมะขามเปียกประมาณ 15 ฝัก นำมาจิ้มกับเกลือแล้วรับประทาน หรือใส่เกลือเติมน้ำแล้วคั้นเป็นน้ำดื่ม
แก้อาการท้องเดินด้วยการใช้เปลือกต้นประมาณ 2 กำมือ นำมาต้มกับน้ำปูนใสหรือน้ำแล้วนำมารับประทาน
ช่วยถ่ายพยาธิตัวกลมในลำไส้ พยาธิไส้เดือน ด้วยการใช้เมล็ดมะขามมาคั่ว กะเทาะเปลือกออก นำเนื้อในเมล็ดมาแช่น้ำเกลือจนนิ่ม แล้วรับประทานครั้งละ 20 เม็ด
ช่วยขับเสมหะ ละลายเสมหะ ด้วยการนำมะขามเปียกมาจิ้มเกลือแล้วรับประทาน
มะขามอุดมไปด้วยกรดอินทรีย์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยชำระล้างความสกปรกในรูขุมขนและขจัดคราบมันบนผิวหนังได้เป็นอย่างดี
รากมะขามมีส่วนช่วยแก้อาการท้องร่วง
รากมะขามช่วยในการสมานแผล
รากมะขามช่วยในการรักษาโรคเริม
รากมะขามช่วยในการรักษาโรคงูสวัด
เปลือกลำต้นมะขามช่วยแก้ไขตัวร้อน
แก่นของต้นมะขามช่วยรักษาฝีในมดลูก
แก่นของต้นมะขามช่วยในการขับโลหิต
แก่นมะขามมีส่วนช่วยเป็นยาชักมดลูกให้เข้าอู่
ใบสดมะขามใช้เป็นยาถ่าย ยาระบาย ขับลมในลำไส้
ใบสดมะขามช่วยรักษาหวัด อาการไอ
ใบสดมะขามมีส่วนช่วยในการรักษาโรคบิด
ใบสดมะขามมีคุณสมบัติใช้เป็นยาหยอดตา รักษาเยื่อตาอักเสบ แก้อาการตามัว
ใบสดมะขามมีคุณสมบัติในการช่วยฟอกโลหิต
ใบสดนำมาต้มผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ใช้อาบหลังคลอด
เนื้อหุ้มเมล็ดของมะขามใช้เป็นยาสวนล้างท้อง
ฝักดิบของมะขามใช้ในการฟอกโลหิต
ฝักดิบของมะขามใช้ในการลดความอ้วน เป็นยาระบาย ลดอุณหภูมิในร่างกาย
เปลือกมะขามช่วยรักษาแผลสด แผลไฟลวก แผลเบาหวาน ถอนพิษ
ในมะขามประกอบด้วย
คาร์โบไฮเดรต 62.5 กรัม
น้ำตาล 57.4 กรัม
เส้นใย 5.1 กรัม
ไขมัน 0.6 กรัม
โปรตีน 2.8 กรัม
วิตามินบี 1 0.428 มิลลิกรัม 37%
วิตามินบี 2 0.152 มิลลิกรัม 13%
วิตามินบี 3 1.938 มิลลิกรัม 13%
วิตามินบี 5 0.143 มิลลิกรัม 3%
วิตามินบี 6 0.066 มิลลิกรัม 5%
วิตามินบี 9 14 ไมโครกรัม 4%
โคลีน 8.6 มิลลิกรัม 2%ประโยชน์ของมะขาม
วิตามินซี 3.5 มิลลิกรัม 4%
วิตามินอี 0.1 มิลลิกรัม 1%
วิตามินเค 2.8 ไมโครกรัม 3%
ธาตุแคลเซียม 74 มิลลิกรัม 7%
ธาตุเหล็ก 2.8 มิลลิกรัม 22%
ธาตุแมกนีเซียม 92 มิลลิกรัม 26%
ธาตุฟอสฟอรัส 113 มิลลิกรัม 16%
ธาตุโพแทสเซ
สูตรอาหารที่คล้ายกัน :
ต้มข่าไก่ สูตรนายต้มโจ๊กแซ่บอร่อยไม่จำเจ/Tom Kha Gai
ลูกชุบ วิธีการทำลูกชุบ ปั้นลูกชุบรูปผลไม้น่ารักแบบง่าย ๆ สอนการทำขนมไทย สูตรนุ่มอร่อยไม่ใช้แม่พิมพ์
วิธีทำให้กุ้งเด้งแบบง่ายๆ เคล็ดลับคู่ครัว | ครัวง่ายๆ สไตล์ หัวหิน ออนแอร์
23 ที่สุดแห่งเคล็ดลับในการเข้าครัวที่คุณจะต้องปลาบปลื้ม
อยากสวยหุ่นดีฟังทางนี้ "สูตรน้ำมะขาม" ลดความอ้วนแค่ดื่มวันละ 1 แก้ว อร่อยทำง่ายได้ประโยชน์อีกเพียบ!!
ขนมเทียนแก้ว ไส้เค็ม สอนทำขนม ทำอาหารง่ายๆ | ครัวพิศพิไล